โดย: thanitaitan
หญ้าหวาน หรือสตีเวีย (Stevia) พืชสมุนไพรทางเลือกใหม่สำหรับใช้ชดเชยความหวานของน้ำตาล และกำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพ เพราะเชื่อว่ากินแล้วไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย ทั้งให้รสชาติหวานเช่นกัน หญ้าหวานดีกว่าน้ำตาลเช่นไร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้เหล่าผู้ที่ใส่ใจสุขภาพกัน







หญ้าหวานเป็นอย่างไร?

ต้นหญ้าหวานเป็นพืชล้มลุกประเภทหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Stevia rebaudiana ลักษณะเป็นพุ่มเตี้ย เหมือนต้นโหระพา มีดอกเป็นช่อสีขาว ความสูงโดยประมาณ 30-90 ซม. มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศบราซิลและปารากวัย ถัดมาในประเทศไทยได้เริ่มนำพืชประเภทนี้มาปลูกไว้ในภาคเหนือ ซึ่งมีภูมิประเทศที่มีลักษณะอากาศเย็น เหมาะแก่การเติบโตของหญ้าหวาน







การใช้หญ้าหวานเริ่มจากนำมาสกัดเพื่อใช้ผสมในเครื่องดื่มจำพวกชา กาแฟและของกินประเภทต่างๆยกตัวอย่างเช่น เต้าเจี้ยว ซีอิ้ว ผักดอง เนื้อปลาบด ฯลฯโดยมีคุณสมบัติให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 10-15 เท่า ส่วนสารสตีวิโอไซด์ที่สกัดได้จากหญ้าหวานนั้น มีความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 200-300 เท่า และยังเป็นความหวานที่ไม่ให้พลังงานอีกด้วย ดังนี้ก็เลยนิยมนำต้นหญ้าหวานมาใช้ทดแทนความหวานของน้ำตาลนั่นเอง







คุณประโยชน์ซึ่งมาจากหญ้าหวาน

หญ้าหวานไม่มีแคลอรี่ หรือถ้าหากมีก็มีน้อยมาก ในขณะที่น้ำตาลเพียงแค่ 2 ช้อนชา จะให้พลังงานถึง 30 แคลอรี่ รวมทั้งคาร์โบไฮเดรต 8 กรัมก็เลยเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากควบคุมน้ำหนัก ยิ่งไปกว่านี้ยังมีคุณประโยชน์ในด้านต่างๆอีกเพียบเลย

ลดน้ำตาลในเลือด ด้วยคุณสมบัติที่ปราศจากพลังงาน ร่างกายสามารถขับออกมาได้ในทันที นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าหญ้าหวานอาจช่วยเพิ่มการสร้างอินซูลินและก็กระตุ้นหลักการทำงานของอินซูลินให้ดียิ่งขึ้นได้ทำให้ต้นหญ้าหวานเหมาะสำหรับคนที่ปรารถนาที่จะลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและก็ผู้ที่รักสุขภาพทั้งหลายแต่ก็ยังคงต้องมีการวิจัยเพิ่มในคนเพื่อรับรองคุณภาพในข้อนี้ด้วย

ลดความเสี่ยงต่อหลายๆโรค ต้นหญ้าหวานสามารถช่วยลดไขมันในเลือดรวมทั้งลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ก็เลยเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อการช่วยคุ้มครองโรคหัวใจ เบาหวาน โรคอ้วน แล้วก็โรคความดันโลหิตสูง

บำรุงตับและชูกำลัง โดยใช้ชดเชยเกลือแร่ในคนที่มีภาวการณ์ขาดน้ำ

ช่วยเพิ่มความหวานให้อาหาร ไม่ต้องน้ำตาล หรือใช้น้ำตาลน้อยลง แต่ว่ายังมีความหวานเท่าเดิม

เอามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ เช่นนำใบต้นหญ้าหวานมาอบแห้ง แล้วก็ใช้ทั้งใบหรือนำมาบดสำหรับใช้ชงชา หรือนำใบมาอบแห้งบดใช้แทนน้ำตาล เหมาะสำหรับใส่น้ำอัดลม ชาเขียว ขนม แยม ไอศกรีม หมากฝรั่ง หรือซอสก็ได้

สามารถทนความร้อนได้ เมื่อนำมาใช้กับอาหารจึงไม่เน่าเสียง่าย และก็แม้ว่าจะผ่านความร้อนนานๆก็ไม่ทำให้ของกินกลายเป็นสีน้ำตาล

ใช้แทนน้ำตาลในยาสีฟัน นอกเหนือจากการใช้ในอาหาร ปัจจุบันยังมีการนำสารสตีวิโอไซด์ที่สกัดจากต้นหญ้าหวานไปใช้เป็นส่วนผสมในยาสีฟันแทนน้ำตาลด้วย





อันตรายจากการใช้ต้นหญ้าหวาน

ต้นหญ้าหวานถูกประยุกต์ใช้ประโยชน์เป็นเวลายาวนาน ในเวลาเดียวกันก็มีการวิจัยมากมายที่พยายามหาคำตอบว่าพืชประเภทนี้เกิดอันตรายมั้ย โดยบางการวิจัยกล่าวว่าการบริโภคต้นหญ้าหวานในปริมาณมากจะมีผลให้จำนวนสเปิร์มลดน้อยลง แล้วก็อาจจะส่งผลให้เป็นมะเร็งได้ จนมีอยู่ตอนหนึ่งที่องค์การอาหารรวมทั้งยาแห่งประเทศอเมริกา(FDA) สั่งห้ามใช้เป็นสารปรุงแต่งในอาหาร







ต่อมาได้มีการทดลองค้นคว้าถึงอันตรายและก็พิษของหญ้าหวานซ้ำหลายครา ผลที่ได้พบว่าไม่มีพิษ หรืออาจมีเพียงนิดหน่อยเพียงแค่นั้น องค์การอนามัยโลกเลยประกาศว่าการใช้พืชประเภทนี้ไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด







จนกระทั่ง ในปี ค.ศ. 2009 อเมริกาได้ประกาศแล้วก็ให้การยอมรับว่าหญ้าหวานเป็นพืชที่ปลอดภัย ส่วนในประเทศไทยเองก็มีทีมงานนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ศึกษาถึงผลข้างเคียงและก็อันตรายของหญ้าหวาน ซึ่งได้ให้บทสรุปว่ามีความปลอดภัย สามารถใช้บริโภคเพื่อชดเชยความหวานของน้ำตาลได้







วิธีการใช้ต้นหญ้าหวาน

แบบชงเป็นชา ต้มน้ำร้อนแต่ไม่ต้องเดือดจัด ใส่ชาหญ้าหวาน 1-2 ใบ แช่ทิ้งเอาไว้ราว 2-3 นาที ค่อยดื่ม ถ้าหากเป็นกาต้มน้ำราวๆ 150-200 มิลลิลิตร ควรใส่ราว 3-4 ใบ โดยการแช่ต้นหญ้าหวานในน้ำอุ่นนานๆจะยิ่งช่วยเพิ่มความหวานให้เยอะขึ้นเรื่อยๆ

แบบสำหรับใส่เครื่องดื่ม ทำเช่นเดียวกับแบบแรกแต่กรองเอากากใบชาทิ้ง แล้วนำน้ำที่ได้ไปชงกาแฟหรือเครื่องดื่มตามต้องการเพื่อเพิ่มความหวาน

แม้การศึกษาในปัจจุบันจะไม่พบว่าการใช้ต้นหญ้าหวานก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย แถมยังเป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพชดเชยน้ำตาลได้เป็นอย่างดี แต่อย่าลืมว่าอะไรที่มากเกินไปก็ย่อมไม่ดี ดังนั้น การใช้หญ้าหวานก็ยังคงจะต้องคำนึงถึงจำนวนที่สมควรด้วย เพื่อได้ประโยชน์สูงสุดแล้วก็เชื่อมั่นได้ว่าไม่มีอันตรายต่อสุขภาพจริงๆ



Tags : หญ้าหวาน



https://www.honestdocs.co/what-is-stevia-pros-and-cons

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

โดย : Beyond Samui

27 ส.ค. 67